กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง (สำหรับงานซ่อมแซม)
สุดยอดกาวซีเมนต์ซ่อมแซม ปูนกาวซ่อมกระเบื้องแตกร้าว-หลุดล่อน
คุณสมบัติเด่น • แรงยึดเกาะสูง 5 เท่า ยึดเกาะได้หลายพื้นผิว • ทนต่อทุกสภาพอากาศ แรงกดและแรงสั่นสะเทือน • ซ่อมได้ทุกพื้นผิว ทั้งพื้น-ผนัง ภายในและภายนอกอาคาร • ปูทับกระเบื้องเดิม ไม่ต้องทุบ
ลักษณะการใช้งาน กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง (สำหรับงานซ่อมแซม) เป็นปูนกาวที่เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมกระเบื้องแตกร้าว หลุดล่อน บริเวณวงกบประตู-หน้าต่าง หลังคารั่ว ท่อระบายน้ำ หรือวัสดุที่ต้องการแรงยึดเกาะสูง ใช้ปูได้หลายพื้นผิว ทั้งงานพื้นและผนัง ภายในและภายนอกอาคาร
** ควรใช้คู่กับกาวยาแนวจระเข้
ข้อแนะนำการใช้ การเตรียมพื้นผิว พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้ง และสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอม อื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วัน หรือ 168 ชั่วโมง ต่อ ความหนา 1 ซม. พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูนและสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
กรณีปูทับกระเบื้องเดิม : ต้องตรวจสอบความสามารถในการยึดเกาะระหว่างกระเบื้องและผิวคอนกรีต หากความสามารถในการยึดเกาะต่ำ จะต้องสกัดกระเบื้องเดิมออกให้หมด และสกัดพื้นเดิมให้ลึกอย่างน้อย 3-5 มม. เพื่อให้กาวซีเมนต์ยึดเกาะได้ ทำความสะอาดให้แห้ง ปราศจากสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ
อัตราส่วนผสม ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม 1 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 0.28 ลิตร ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม 4 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 1.12 ลิตร หรือ ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม 2.7 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร
การผสม • เทปูนกาวซีเมนต์ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบ ต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน • ทิ้งไว้เพื่อให้เคมีบ่มตัวประมาณ 15 นาที จึงกวนซ้ำอีกครั้งก่อนนำมาใช้งาน อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่มหลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้วเคมีบ่มตัวแล้ว การใช้งาน 1. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้อง ให้ทั่วและเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง 2. ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง) 3. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้องและให้มั่นใจว่ากาวซีเมนต์อยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศ ทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตกล่อนในภายหลัง 4. นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวาง ในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น 5. สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงานและไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่เหมาะสม ควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเบื้องหรือหิน การบ่ม และการยาแนวกระเบื้อง หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแล้วจึงยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาแนวจระเข้ให้เหมาะสมกับใช้ตามลักษณะของร่องและลักษณะของสถานที่
ข้อเสนอแนะ • เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง • เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น
ข้อจำกัดในการใช้ สามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ต้องมีความหนาอย่างน้อย 19 มม. และมีการติดตั้งที่แข็งแรง ไม่โก่งงอ **หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ
ข้อควรระวัง • ผลิตภัณฑ์อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ • ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์ • ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด • ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก • ห้ามรับประทาน
การเก็บรักษา • ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม • อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้
|