กาวซีเมนต์ จระเข้เอ็กซ์เพรส ขนาด 20 กก.
กาวซีเมนต์สำหรับงานเร่งด่วน หนึ่งเดียวที่ได้รับมาตรฐาน Fast Setting โดยเฉพาะ
- ปูนกาวแห้งเร็ว เปิดใช้พื้นที่ได้ใน 6-8 ชั่วโมง
- ปูกระเบื้องขนาดใหญ่ทุกชนิด แรงยึดเกาะสูงพิเศษ ทนต่อแรงสั่นสะเทือน
- ปูทับได้ทั้ง กระเบื้อง ไม้อัดโครงสร้าง ไฟเบอร์ซีเมนต์
- ปูหินอ่อน หินแกรนิต หินธรรมชาติ เรซิ่น กระเบื้องแก้ว พื้นและผนัง
กาวซีเมนต์ จระเข้เอ็กซ์เพรส เป็นกาวซีเมนต์ชนิด พอลิเมอร์ โมดิฟรายด์ ชนิดแห้งตัวได้เร็ว (Fast Setting) รับแรงได้ใน 6 ชั่วโมง. เหมาะสำหรับงานซ่อมแซม สามารถใช้ปูกระเบื้องที่อุณหภูมิต่ำได้ เนื้อกาวมีความยืดหยุ่นตัวสูง สามารถปูกระเบื้องได้ทุกชนิด ปูทับกระเบื้องเดิมได้และงานเร่งด่วน เช่น งานห้องน้ำ โชว์รูม ห้องอาหาร ล๊อบบี้ของ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
ข้อแนะนำการใช้
การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้ง และสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอม อื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วัน หรือ 168 ชั่วโมง ต่อความหนา 1 ซม.
พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูนและสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
กรณีปูทับกระเบื้องเดิม : ต้องตรวจสอบความสามารถในการยึดเกาะระหว่างกระเบื้องและผิวคอนกรีต หากความสามารถในการยึดเกาะต่ำจะต้องสกัดกระเบื้องเดิมทิ้ง
อัตราส่วนผสม ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้เอ็กซ์เพรส 20 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 4.8 ลิตร หรือ ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้เอ็กซ์เพรส 3 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร
การผสม • เทปูนกาวซีเมนต์ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบ ต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน • หลังจากผสมแล้วควรใช้งานให้หมด ภายใน 20-30 นาที (ขึ้นกับอุณหภูมิขณะทำงาน) อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่มหลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้ว
การใช้งาน 1. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้อง ให้ทั่วและเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง 2. ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุม ประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง) 3.ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้องและให้มั่นใจว่ากาวซีเมนต์อยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศ ทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตกล่อนในภายหลัง 4. นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวางในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับ กาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น 5. สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการ ภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงานและไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่ปาดลงบนพื้นผิว ควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเบื้องหรือหิน
การบ่ม และการยาแนวกระเบื้อง หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแล้วจึงยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาแนวจระเข้ให้เหมาะสม แต่ในกรณีต้องการเปิดพื้นที่อย่างเร่งด่วน ควรยาแนวร่องกระเบื้องด้วยกาวยาแนวจระเข้ แพลทินัม หรือกาวยาแนวจระเข้เทอร์โบ พลัส (Fast Setting) เท่านั้น
ข้อเสนอแนะ • การปูกระเบื้องผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ต้องมีความหนาอย่างน้อย 19 มม. และมีการติดตั้งแข็งแรง ไม่โก่งงอ • เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง • เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์จระเข้ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น
ข้อจำกัดในการใช้ • ห้ามใช้ปูกระเบื้องบนผิวไม้เนื้อแข็ง แผ่น Particle ปาร์เกต์ ผิวโลหะ ไฟเบอร์กลาส ผิวพลาสติก • ห้ามใช้กาวซีเมนต์ติดตั้งหินที่มีปัญหาเรื่องความชื้น (Moisture Sensitive Natural Stone) ให้ติดตั้งด้วยกาวยาแนวจระเข้ อีพ็อกซี่ พลัส แทน • ห้ามใช้ติดตั้งหินที่ทำจากเรซิ่น **หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ
ข้อควรระวัง • ผลิตภัณฑ์อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ • ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์ • ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด • ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก • ห้ามรับประทาน
การเก็บรักษา • ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม • อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้
|